แนวโน้มราคาทองคำประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2568

ราคาทองคำร่วงหนักแตะระดับ $3,200 ลดลงถึง $90 หลังจากมีข่าวดีเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับจีน ที่บรรลุข้อตกลงชั่วคราว ลดภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ทำให้นักลงทุนลดความกังวลและหันไปลงทุนใน สินทรัพย์เสี่ยง แทน เช่น หุ้นทั่วโลก ซึ่งปรับขึ้นแรงทันที ขณะที่ เงินดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลลบต่อราคาทองคำ

ปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ

• ตลาดหุ้นพุ่ง – ดอลลาร์แข็งค่า: นักลงทุนเทขายทองคำและย้ายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์เสี่ยง
• ความคืบหน้าด้านการค้าสหรัฐ-จีน: ลดภาษีศุลกากรซึ่งถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการคลี่คลายสงครามการค้า
• Fear & Greed Index พุ่งเป็น 66 จุด: สะท้อนจิตวิทยาตลาดเริ่มกลับสู่ “โหมดความโลภ” มากกว่าความกังวล
• ทรัมป์เตรียมลงนามลดราคายาครั้งใหญ่: สะท้อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง

ปัจจัยหนุนที่ยังพอเหลือ

• SPDR กลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง จำนวน 1.15 ตัน ถือเป็นการกลับเข้าซื้อหลังขายออกตลอดสัปดาห์ก่อน
• ความไม่แน่นอนระยะยาวเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยังไม่คลี่คลายถาวร

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคืนนี้

• ดัชนี CPI (ทั่วไป) เดือนเม.ย.
• ดัชนี Core CPI (พื้นฐาน) เดือนเม.ย.

หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมา “สูงกว่าคาด” อาจเพิ่มความกังวลเรื่องดอกเบี้ยสูงนาน → กดดันทองคำ
หาก “ต่ำกว่าคาด” อาจช่วยพยุงราคาทองคำระยะสั้น

วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

ราคาทอง Spot หลุดแนวรับสำคัญ $3,240 และลงมาทดสอบโซน $3,200 แล้ว ซึ่งถือเป็นแนวรับจิตวิทยา
เบื้องต้นยังมีโอกาสที่จะเห็นแรงขายต่อเนื่อง ถ้ายังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ

กลยุทธ์การลงทุน

• สำหรับนักลงทุนระยะสั้น:
  รอ “สัญญาณกลับตัวชัดเจน” หรือให้ราคายืนเหนือ $3,240 ให้ได้ก่อนค่อยเข้าซื้อ
• สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว:
  สามารถ “ทยอยสะสม” เมื่อราคาย่อลงใกล้ $3,160-$3,200 หากเชื่อในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว

สรุป

ราคาทองคำถูกเทขายแรงจากข่าวดีด้านการค้าโลก ตลาดหุ้นและดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลให้ทองคำอ่อนแรงอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มในระยะสั้นจึงยัง “อ่อนไหว” และอาจมีการแกว่งตัวแรงในช่วงประกาศตัวเลข CPI คืนนี้

• แนวโน้มราคาทอง 9 พ.ค. 68