แนวโน้มราคาทอง 8 กันยายน 68
ทองคำโลกยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังดัชนีดอลลาร์อ่อน–บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ลด ตลาดคาดเฟดอาจลดดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้ ขณะที่ Metals Focus คาดธนาคารกลางซื้อทองสุทธิ 900 ตันในปี 2568
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ทองคำโลก ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังดัชนีดอลลาร์อ่อน–บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ลด ตลาดคาดเฟดอาจลดดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้ ขณะที่ Metals Focus คาดธนาคารกลางซื้อทองสุทธิ 900 ตันในปี 2568
ปัจจัยหนุนราคาทองโลกขาขึ้น
ราคาทองโลกยังรักษาระยะขาขึ้น จากการที่ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าลงมาที่ 97.7 หน่วย และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับลงต่อเนื่องแตะ 4.07% หลังตัวเลข จ้างงานนอกภาคเกษตร (Non Farm Payroll) ออกมาเพียง 22,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ปัจจัยนี้กดดันให้ตลาดเชื่อว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยมากกว่าที่เคยคาด
คาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย–QE อาจกลับมา
จากข้อมูล CME FedWatch ตลาดปรับคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.25% ถึง 3 ครั้ง ในเดือน ก.ย. ต.ค. และ ธ.ค. มากกว่าที่เคยประเมินไว้เพียง 2 ครั้ง ขณะที่ Michael Hartnett นักกลยุทธ์จาก Bank of America มองว่าหากแรงกดดันเงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้น มีโอกาสที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ จะลงแตะ 4% และเฟดอาจกลับมาใช้มาตรการ QE (Quantitative Easing) เพื่อพยุงเศรษฐกิจ
Demand จากธนาคารกลางและ Gold ETF
ข้อมูลจาก Metals Focus คาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะซื้อทองคำสุทธิในปี 2568 ถึง 900 ตัน มากกว่าค่าเฉลี่ยช่วงปี 2559–2564 ถึงสองเท่า ขณะที่กองทุน Gold ETF มีเงินไหลเข้า 397 ตันในครึ่งปีแรก ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่ปี 2563 ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 981.97 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำ
แม้ภาพรวมทองคำยังเป็นขาขึ้น แต่ระยะสั้นราคามีโอกาสไม่ผ่านแนวต้านที่ 3,600 ดอลลาร์ จึงประเมินว่ามีโอกาสย่อลงมาทดสอบแนวรับที่ 3,555 ดอลลาร์ หากยืนได้อาจกลับขึ้นต่อ แต่หากหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,535 ดอลลาร์ มีโอกาสเข้าสู่ช่วงปรับฐาน
สรุป
ราคาทองคำยังมีแรงหนุนจากดอลลาร์อ่อน–บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ลด และคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยหลายครั้ง รวมถึงแรงซื้อจากธนาคารกลาง อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นยังต้องจับตาแนวรับ–แนวต้านสำคัญ หากไม่หลุด 3,535 ดอลลาร์ ยังมีโอกาสไปต่อในรอบขาขึ้น