แนวโน้มราคาทอง 23 เมษายน 68
ราคาทองย่อตัว $44 หลังพุ่งแรงแตะ $3,500 — นักลงทุนเทขายทำกำไร-คาดการค้าสหรัฐฯ–จีนเริ่มคลี่คลาย
                ราคาทองย่อตัว $44 หลังพุ่งแรงแตะ $3,500 — นักลงทุนเทขายทำกำไร-คาดการค้าสหรัฐฯ–จีนเริ่มคลี่คลาย
ราคาทองคำโลก (Gold Spot) ปิดตลาดลดลง $44 อยู่ที่ระดับ $3,379 ต่อออนซ์ หลังจากที่ขึ้นไปทำ All-time high ที่ $3,500 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยการปรับขึ้นกว่า $500 หรือราว 30% ภายในเวลา 39 วัน สร้างแรงจูงใจให้ นักลงทุนเทขายทำกำไร ออกมาในวงกว้าง
สาเหตุหลักของแรงเทขาย
1. ราคาทองขึ้นเร็วเกินไปในเวลาสั้น
- ทะลุจาก $3,000 สู่ $3,500 ในเวลาไม่ถึง 40 วัน
 - ให้ผลตอบแทนร้อนแรงถึง 30% จนเข้าเขต Overbought ทางเทคนิค
 - สัญญาณจาก MACD และ RSI เริ่มส่งสัญญาณพักฐาน
 
2. ความหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีนคลี่คลาย
- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า “ความขัดแย้งการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะคลี่คลายในไม่ช้า”
 - แม้ยอมรับว่า การเจรจายังยืดเยื้อ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ ไม่ต้องการให้สถานการณ์ลากยาว
 - ข่าวนี้ลดแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
 
3. การลดถือครองทองของ SPDR
- กองทุน SPDR ขายทองคำออก 4.59 ตัน หลังราคาทองพุ่งแรงหลายวัน
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตาคืนนี้
- PMI ภาคการผลิตและบริการ (เม.ย.) – บ่งชี้ความแข็งแกร่งภาคธุรกิจสหรัฐฯ
 - ยอดขายบ้านใหม่ (มี.ค.) – สะท้อนความเชื่อมั่นและสภาพเศรษฐกิจครัวเรือน
 
วิเคราะห์ราคาทองคำ
| ปัจจัย | วิเคราะห์ | 
|---|---|
| แนวรับสำคัญ | $3,300 และ $3,250 – เป็นระดับที่ราคาทองอาจดีดกลับได้หากมีแรงซื้อ | 
| แนวต้านสำคัญ | $3,420 และ $3,500 – หากมีข่าวลบจากเฟดหรือจีนอาจรีบาวด์กลับ | 
| สัญญาณเทคนิค | อยู่ในภาวะ Overbought มาระยะหนึ่งแล้ว จึงมีโอกาสพักฐาน | 
| แนวโน้มระยะสั้น | คาดราคาทองอาจย่อตัวต่อเนื่อง โดยมีโอกาสลงทดสอบ $3,250 ก่อนจะเห็นแรงซื้อกลับ | 
สรุป
การที่ราคาทองปรับตัวขึ้นเร็วมากในระยะสั้น ทำให้การ พักฐานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีสัญญาณบวกจากฝั่งสหรัฐฯ และจีนเรื่อง การคลี่คลายสงครามการค้า หากคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด อาจส่งผลให้ราคาทองยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง โดยบริเวณ $3,250 คือแนวรับสำคัญที่นักลงทุนควรจับตา เพื่อวางกลยุทธ์สะสมในรอบใหม่