.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ทองคำหลุด $3,300 ปรับลง $91 เหตุดอลลาร์แข็ง-ทรัมป์เปลี่ยนท่าทีเรื่องเฟดและภาษีนำเข้า
ราคาทองคำโลก (Gold Spot) ปรับลดลงแรงอีกครั้ง โดยปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ระดับ $3,287 ต่อออนซ์ ลดลงถึง $91 หลังทะลุแนวรับสำคัญที่ $3,300 โดยเกิดจากแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย พร้อมกระแสเงินไหลกลับเข้าสู่ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น จากสัญญาณเชิงบวกของการเมืองและเศรษฐกิจสหรัฐ
ปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทอง
1. ดอลลาร์แข็งค่า
- ดอลลาร์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก หลัง ทรัมป์ประกาศไม่ปลดเจอโรม พาวเวล จากตำแหน่งประธานเฟด
- ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของนโยบายการเงิน
2. สัญญาณลดภาษีนำเข้าจากจีน
- ทรัมป์ระบุว่า จะไม่เก็บภาษีนำเข้า 145% จากจีน ต่อไป โดยจะลดลง “แต่ไม่ถึง 0%”
- ตลาดมองว่าสงครามการค้าเริ่มคลี่คลาย ทำให้เงินไหลออกจากทองคำ
3. ตัวเลขเศรษฐกิจผสมผสาน
- PMI ภาคการผลิตเดือน เม.ย. ออกมาดีกว่าคาด → ช่วยหนุนมุมมองเศรษฐกิจเชิงบวก
- แต่ PMI ภาคบริการ ออกมาต่ำกว่าคาด → ยังกดดันแนวโน้มการฟื้นตัว
✅ 4. กองทุน SPDR ซื้อทองเล็กน้อย
- แม้ราคาทองร่วง แต่ SPDR กลับซื้อทอง 1.44 ตัน สะท้อนว่านักลงทุนรายใหญ่ยังมองว่าทองยังมีคุณค่าในระยะยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ที่ต้องจับตา
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ – สะท้อนแรงงานสหรัฐ
- ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) – ชี้การลงทุนธุรกิจ
- ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) – สะท้อนความแข็งแกร่งภาคอสังหาฯ
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ
ปัจจัย | วิเคราะห์ |
---|---|
แนวรับสำคัญ | $3,250 และ $3,200 – หากหลุดอาจเจอแรงขายต่อเนื่อง |
แนวต้านสำคัญ | $3,370 และ $3,400 – หากขึ้นไปทดสอบอีกอาจเจอแรงขายทำกำไร |
สัญญาณเทคนิค | การร่วงหลุด $3,300 บ่งชี้แรงขายหนัก ราคายังอยู่ในโหมด “พักฐาน” |
กลยุทธ์ลงทุน | Wait & See หรือรอทยอยสะสมหากราคาลงใกล้ $3,250 หรือหลุดแล้วดีดกลับ |
สรุป
ราคาทองคำยังถูกกดดันจากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น รวมถึงท่าทีทรัมป์ที่อ่อนลงเรื่องการค้าและเฟด ทำให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม ระยะยาวทองคำยังมีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะหากสงครามการค้ายืดเยื้อ และเฟดปรับลดดอกเบี้ยจริงในช่วงครึ่งหลังของปี
แนวรับสำคัญที่ $3,250 คือจุดที่ควรจับตาเป็นพิเศษ หากหลุด อาจเห็นการปรับฐานลงลึกกว่าเดิม ก่อนเข้าสู่รอบสะสมใหม่อีกครั้ง