
ราคาทองคำ Spot ปรับตัว ฟื้นขึ้น $21 หลังร่วงแรงในช่วงก่อนหน้า จากการที่ สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว โดยมีการ ปรับลดภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้บรรยากาศตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มคลายกังวล ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยลดลง และเงินไหลออกจากทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาอีกครั้ง ขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และ ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เดือนเม.ย. ออกมาต่ำกว่าคาด โดย CPI YoY เพิ่มขึ้น 2.3% (ต่ำกว่าคาดที่ 2.4%) และ CPI MoM เพิ่มขึ้น 0.2% (ต่ำกว่าคาดที่ 0.3%) ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
- CPI ต่ำกว่าคาด → ชะลอแรงกดดันเงินเฟ้อ
- ดอลลาร์อ่อนค่า → หนุนแรงซื้อทองคำ
- เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ → เดือน ก.ย. และ ต.ค.
- SPDR ขายทอง 2.58 ตัน → สะท้อนแรงขายสุทธิของกองทุนในตลาด
แนวโน้มราคาทองคำ: ยังเผชิญแนวต้านสำคัญ
แนวรับสำคัญ | แนวต้านสำคัญ |
---|---|
$3,200 | $3,270 |
$3,150 | $3,330 |
- ราคาทองคำยังคงฟื้นตัวจากแนวรับ $3,200 ได้ แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน $3,270 ได้
- หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ $3,270 ได้ อาจมีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบ $3,330
- หากไม่สามารถผ่าน $3,270 ได้ ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ $3,200 และ $3,150 ตามลำดับ
กลยุทธ์แนะนำ
- ระยะสั้น: รอดูการทดสอบแนวต้าน $3,270 ก่อน หากยังไม่ผ่าน อาจเป็นโอกาสเปิด Short เก็งกำไรลง
- ระยะกลาง-ยาว: ทยอยสะสมเมื่อราคาลงใกล้โซน $3,150–$3,200 หากมองว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี
สรุป
แม้ราคาทองคำจะดีดขึ้นหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด และดอลลาร์อ่อนค่า แต่ภาพรวมยังเป็นการฟื้นตัวในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากยังติดแนวต้านสำคัญที่ $3,270 หากไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะย่อลงอีกครั้งในกรอบ $3,200 – $3,150