
แนวโน้มราคาทอง เริ่มเผชิญแรงเทขาย ส่งผลให้ปิดตลาดลดลงเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ตึงเครียดลดลง ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่ปรับตัวสูงขึ้นก็สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ย ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ กองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่มอีก 1.72 ตัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการทองคำที่ยังมีอยู่ในตลาด
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม โดย Conference Board ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 99.5 จาก 98.7 ในเดือนกันยายน นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ซึ่งคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 7.98 ล้านตำแหน่งจาก 8.04 ล้านตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ข้อมูลเหล่านี้อาจส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้น
การวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ
แม้ราคาทองคำจะเผชิญแรงเทขาย แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ All-Time High ซึ่งบ่งบอกว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่จะเป็นการปรับขึ้นในกรอบที่แคบลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,758 ดอลลาร์ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับความผันผวนในตลาด