แนวโน้มราคาทอง 26 พ.ค. 68

แนวโน้มราคาทอง 26 พ.ค. 68

ภาพรวมตลาด: ทองคำพุ่งแรงกว่า 4.8% สัปดาห์ก่อน

ราคาทองคำ Spot ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น เพิ่มขึ้น $155 หรือ +4.86% ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันศุกร์ (23 พ.ค.) ที่ปรับขึ้นแรงอีก $63 จากกระแสแรงซื้อทองคำในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางแรงกดดันจากหลายปัจจัยที่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

  • สงครามการค้าทวีความรุนแรง:
    ปธน.ทรัมป์ขู่จะ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU สูงถึง 50% มีผลวันที่ 1 มิ.ย. พร้อมทั้งเพิ่มภาษีนำเข้า 25% สำหรับ iPhone ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ
  • ปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ:
    หลังจากสภาผู้แทนฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษี-งบประมาณ ซึ่ง CBO คาดว่าจะผลักดันให้ หนี้สาธารณะสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี (จากเดิม 36.2 ล้านล้านดอลลาร์)
  • ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์:
    สหรัฐฯ ได้รับข่าวกรองว่า อิสราเอลอาจเตรียมโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง

แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้เริ่มมีแรงขายบางส่วนจากเทคนิคอล และการพักฐานหลังปรับขึ้นร้อนแรง

ปัจจัยเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้

  • คืนนี้ (27 พ.ค.): ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ
  • นักลงทุนจึงให้น้ำหนักกับสถานการณ์การเมืองโลกและนโยบายภาษีของสหรัฐฯ มากเป็นพิเศษ

วิเคราะห์ราคาทองคำ

แนวรับสำคัญแนวต้านสำคัญ
3,310 ดอลลาร์3,355 ดอลลาร์
3,270 ดอลลาร์3,400 ดอลลาร์
  1. ราคาทองคำเริ่ม ย่อตัวจากแรงขายทำกำไร แต่ยัง ไม่หลุดแนวรับ 3,310 ดอลลาร์
  2. หากยืนเหนือ 3,310 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้นเพื่อทดสอบ แนวต้าน 3,355 ดอลลาร์
  3. แต่หากหลุดแนวรับ อาจลงไปทดสอบระดับถัดไปที่ 3,270 ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุน

  • ระยะสั้น: หากราคาทองฟื้นจาก 3,310 ดอลลาร์ ไม่ผ่านแนวต้าน 3,355 ดอลลาร์ ให้รอจังหวะขายทำกำไร
  • ระยะย่อ: หากราคาทองหลุด 3,310 ดอลลาร์ และลงใกล้ 3,270 ดอลลาร์ อาจเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสม โดยตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 3,240 ดอลลาร์

สรุป: ราคาทองยังถูกหนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ หนี้สาธารณะสหรัฐฯ และสงครามการค้าโลก หากยืนเหนือ 3,310 ดอลลาร์ได้ มีลุ้นฟื้นตัวต่อ แต่ยังต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นจากการปรับขึ้นร้อนแรงในสัปดาห์ก่อน