แนวโน้มราคาทอง 11 กรกฎาคม 68
ราคาทองคำโลก ยังคงเคลื่อนไหวตามความคาดหวังของตลาดต่อทิศทางดอกเบี้ยของเฟด โดย รายงานประชุม FOMC หนุนแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ราคาทองฟื้นตัว หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ – ตลาดจับตาภาษีการค้า
ราคาทองคำโลก กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง จากแรงหนุนรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 17–18 มิ.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% แม้ว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่งก็ตาม โดยเฟดมองว่า ผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรต่อเงินเฟ้อเป็นเพียงชั่วคราว จึงควรจับตาตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจปรับนโยบายการเงิน
ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 227,000 ราย ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 235,000 ราย ส่งผลให้ ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ขึ้นในตลาดโลก ซึ่งกดดันราคาทองคำบางส่วน
อีกประเด็นที่ตลาดกำลังจับตาคือ มาตรการภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งจดหมายแจ้งเรียกเก็บภาษีกับ 22 ประเทศ ในอัตรา 20%–50% โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ หากบังคับใช้จริงอาจจุดชนวนความตึงเครียดทางการค้าและส่งผลต่อตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ
ด้าน กองทุนทองคำ SPDR กลับมาซื้อทองคำอีก 1.44 ตัน รวมถือครองสุทธิ 948.81 ตัน สะท้อนแรงซื้อสะสมของนักลงทุนที่ยังมองความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ
แม้ว่าทองคำจะได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด แต่การแข็งค่าของดอลลาร์ก็ยังเป็นปัจจัยถ่วงราคาอยู่บ้างในระยะสั้น
- แนวรับสำคัญ: 3,310 ดอลลาร์
- แนวต้านสำคัญ: 3,345 และ 3,370 ดอลลาร์
หากราคาทองสามารถยืนเหนือแนวรับที่ 3,310 ดอลลาร์ และผ่านแนวต้านแรกที่ 3,345 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง จะเป็นสัญญาณว่าราคาทองมีโอกาสเข้าสู่ช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง แต่หากยังไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว อาจมีการปรับฐานระยะสั้นอีกรอบ
สรุป
ราคาทองคำโลก ยังคงเคลื่อนไหวตามความคาดหวังของตลาดต่อทิศทางดอกเบี้ยของเฟด โดย รายงานประชุม FOMC หนุนแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง หนุนดอลลาร์ให้แข็งค่า สร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อทอง อย่างไรก็ตาม แรงซื้อจากกองทุนทองคำรายใหญ่ยังสนับสนุนภาพรวมราคาทองคำในระยะยาว