แนวโน้มราคาทอง 14 ก.ค. 68
ราคาทองคำฟื้นตัวจากปัจจัยการเมืองและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งภาษีนำเข้าที่ทวีความตึงเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ทองคำกลับตัวเป็นขาขึ้น รับแรงหนุนความขัดแย้งการค้าสหรัฐฯ – ดอลลาร์แข็งค่าจากตัวเลขงบประมาณเกินดุล
ราคาทองคำโลก เริ่มกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หลังจากตลาดตอบรับแรงกดดันจาก มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเก็บภาษีจาก แคนาดา 35%, สหภาพยุโรป (EU) 30%, และ เม็กซิโก 30% ส่งผลให้เกิดกระแสตอบโต้จากหลายฝ่าย
- สหภาพยุโรป (EU) โดยประธานคณะกรรมาธิการยุโรป “เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ระบุว่า EU พร้อมตอบโต้หากจำเป็น
- เม็กซิโก ออกแถลงการณ์วิจารณ์ว่าสหรัฐฯ ละเมิดข้อตกลงคณะทำงานทวิภาคีที่เพิ่งจัดตั้งไปก่อนหน้านี้ โดยทรัมป์โต้กลับว่า “เม็กซิโกยังทำได้ไม่ดีพอ”
ขณะที่ฝั่งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด ส่งสัญญาณว่า ยังมีโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยภายในเดือนนี้ ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ยังคาดว่า จะมีการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ภายในปีนี้ในช่วงเดือนกันยายนและธันวาคม
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า รัฐบาลกลับมาเกินดุลงบประมาณกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน เทียบกับเดือนพฤษภาคมที่ขาดดุลกว่า 316,000 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นถือเป็นปัจจัยหนุนหลัก ส่งผลให้ ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่า
ในส่วนของกองทุน SPDR ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ ขายทองเล็กน้อย 0.02 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถือครองสุทธิ 947.64 ตัน