ทองคำโลกพุ่ง! ดอลลาร์ร่วงหนัก ตลาดคาด “เฟดลดดอกเบี้ย”

ราคาทองคำโลก มีการปรับตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจาก ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลง เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน สู่ระดับ $99.40$ หน่วย จากที่เคยอยู่ที่ $100.21$ หน่วย การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นผลมาจากความคาดหวังในตลาดที่สูงขึ้นอย่างมากว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย $0.25\%$ ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งตลาด CME FedWatch ให้ความน่าจะเป็นสูงถึง $87.6\%$ เลยทีเดียว

ตลาดคาดการณ์ “เฟดลดดอกเบี้ย” และจับตาประธานเฟดคนใหม่

นอกจากประเด็นการลดดอกเบี้ยที่กำลังเป็นที่จับตา ตลาดยังคงติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเด็นการสรรหาประธานเฟดคนใหม่เพื่อมาแทนที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม ปี $2026$ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า นาย เควิน แฮสเซตต์ มีแนวโน้มสูงเกิน $70\%$ ที่จะได้รับตำแหน่งนี้

• เฟดลดดอกเบี้ย: ตลาดมองว่ามีความเป็นไปได้สูงถึง $87.6\%$ ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย $0.25\%$ ในเดือนธันวาคม
• ว่าที่ประธานเฟด: นายเควิน แฮสเซตต์ พร้อมรับตำแหน่งและประกาศว่าจะผลักดันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้น
• ค่าเงินเยน: ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ว่า BOJ อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนนี้
• SPDR: กองทุน SPDR ได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก $4.57$ ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำล่าสุด (Gold Price Analysis)

จากการปรับตัวขึ้น ทำให้ราคาทองโลกได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ $4,230 – 4,245$ ดอลลาร์ และมีการย่อตัวลงมาเล็กน้อย จึงประเมินว่า ราคาทองโลกอาจปรับตัวลงเพื่อทดสอบแนวรับที่ $4,200$ ดอลลาร์ และมีโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปอีกครั้งในภายหลัง แต่ถ้าราคาทองคำหลุดแนวรับถัดไปที่ $4,160$ ดอลลาร์ ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ (Sideway) อีกครั้ง สำหรับคืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

สรุป

แนวโน้มราคาทองคำ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟดและความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน แม้ว่าราคาทองจะมีการย่อตัวลงหลังทดสอบแนวต้าน แต่ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อได้หากไม่หลุดแนวรับสำคัญ