แนวโน้มราคาทอง 4 กรกฎาคม 68
ราคาทองคำยังคงเผชิญแรงกดดันจาก การแข็งค่าของดอลลาร์ และ ท่าทีระมัดระวังของเฟด ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ราคาทองคำร่วงกว่า $30 หลังดอลลาร์แข็ง – ตลาดปรับลดคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยเหลือ 2 ครั้งในปีนี้
ราคาทองคำโลก ปรับตัวลดลง 30.84 ดอลลาร์ ในคืนที่ผ่านมา หลังจาก เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll) และ อัตราการว่างงาน ที่แสดงถึงภาวะตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่จำเป็นต้องรีบลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนถึง 93.3% คาดว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.5% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ และจะปรับลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในเดือนกันยายนและธันวาคม ครั้งละ 0.25% สู่ระดับ 3.75–4.00% ณ สิ้นปีนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ตลาดเคยคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง
อีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันตลาดคือการเปิดเผยตัวเลข ขาดดุลการค้าสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 71,500 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 69,900 ล้านดอลลาร์
ในด้านการเมือง ล่าสุด ร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการรับรองจาก สภาผู้แทนราษฎร และเตรียมส่งให้ทรัมป์ลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป สะท้อนเสถียรภาพเชิงนโยบายทางการคลังของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน กองทุน SPDR Gold Trust ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 947.66 ตัน
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำโลก ล่าสุดมีแรงขายกดดันอย่างต่อเนื่องหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ดอลลาร์แข็งค่า และคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยน้อยลงจากเดิม อย่างไรก็ตาม ในเชิงเทคนิค ราคาทองสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,311 ดอลลาร์ ได้ ทำให้ในระยะสั้นมีโอกาสเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคเล็กน้อย
- แนวรับ: 3,311 และ 3,285 ดอลลาร์
- แนวต้าน: 3,340 และ 3,375 ดอลลาร์
หากราคาทองสามารถดีดตัวขึ้นและทะลุผ่านแนวต้าน 3,340 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง อาจกลับมาทดสอบระดับ 3,375 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 3,311 ดอลลาร์ได้ ก็อาจมีโอกาสลงทดสอบแนวรับถัดไปที่ 3,285 ดอลลาร์