แนวโน้มราคาทอง 2 ต.ค. 68
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น หลังดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันจากภาวะชัตดาวน์และตัวเลขจ้างงานเอกชนที่ลดลงมากสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น หลังดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันจากภาวะชัตดาวน์และตัวเลขจ้างงานเอกชนที่ลดลงมากสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
ราคาทองโลกขยับขึ้น ดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ลง กดดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น จากแรงหนุนของดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แตะระดับ 97.70 หน่วย จากจุดสูงสุด 98.49 หน่วย ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 4.10% จาก 4.15% หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP Non-Farm) เดือนกันยายน ลดลง 32,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงแรงที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และสวนทางกับคาดการณ์ที่มองว่าจะเพิ่มขึ้น
สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี หลังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณชั่วคราว ขณะที่เฟดยังคงกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย
ปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำ
แรงขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองปรับขึ้น ได้แก่
- ดัชนี DXY อ่อนตัว ต่อเนื่อง กดดันค่าเงินดอลลาร์
- บอนด์ยีลด์ 10 ปี ลดลง จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
- ตัวเลขจ้างงาน ADP ทรุด หนักสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
- SPDR Gold Trust ซื้อทองเพิ่ม 6.01 ตัน รวมถือครอง 1,018.89 ตัน
แนวโน้มราคาทอง: Sideway Up แต่ระวังย่อตัว
ภาพรวมราคาทองโลกเริ่มมีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway Up โดยยังไม่สามารถทะลุแนวต้าน 3,870–3,880 ดอลลาร์ได้ จึงคาดว่าอาจมีการย่อตัวลงไปทดสอบแนวรับ 3,835 ดอลลาร์ ก่อนดีดกลับขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,800 ดอลลาร์ มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ช่วงปรับฐานลงในระยะสั้น นักลงทุนจึงควรติดตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
สรุป
อัปเดตราคาทองวันนี้ ปรับขึ้นจากแรงหนุนของดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ที่อ่อนตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และภาวะชัตดาวน์ แนวโน้มยังเป็น Sideway Up แต่ต้องระวังแรงขายเมื่อใกล้แนวต้านสำคัญ