แนวโน้มราคาทอง 15 ต.ค. 68
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น หลังเฟดส่งสัญญาณยุติการลดขนาดงบดุล (QT) เพิ่มสภาพคล่องในระบบ ด้านนักวิเคราะห์เตือนภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ อาจยืดเยื้อและกระทบ GDP
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ราคาทองคำโลก ปรับตัวขึ้น หลังเฟดส่งสัญญาณยุติการลดขนาดงบดุล (QT) เพิ่มสภาพคล่องในระบบ ด้านนักวิเคราะห์เตือนภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ อาจยืดเยื้อและกระทบ GDP
ทองคำโลกยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติการลดขนาดงบดุล หรือ QT เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบการเงิน ไม่ให้กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ยังไม่ได้กล่าวถึงการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่แสดงความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแรงและเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวสูง
ปัจจัยหนุนราคาทองคำจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายเฟด
นักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้ กรุ๊ป คาดว่าภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ อาจยืดเยื้อถึงเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้พนักงานรัฐกว่า 750,000 คนต้องหยุดงานชั่วคราว และอาจกระทบ GDP สหรัฐฯ ราว 0.8% อย่างไรก็ตาม IMF ยังประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้จะเติบโตได้ราว 2% จากการขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำอีก 2.57 ตัน รวมถือสุทธิ 1,021.45 ตัน
ตัวเลขสำคัญที่ต้องติดตาม
- ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก เดือนตุลาคม (ประกาศ 19.30 น.)
- ท่าทีเฟดต่อเงินเฟ้อและนโยบายดอกเบี้ย
- ความคืบหน้าการเจรจาชัตดาวน์ในสภาคองเกรส
แนวโน้มราคาทองคำระยะสั้น
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ทองคำโลกยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น มีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 4,179–4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนอาจปรับฐานลงทดสอบแนวรับที่ 4,122 ดอลลาร์ หากหลุดระดับ 4,100 ดอลลาร์ มีความเสี่ยงเข้าสู่ช่วงปรับฐานระยะสั้น
สรุป ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากนโยบายเฟดและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะกรณีชัตดาวน์และแนวโน้มเงินเฟ้อ นักลงทุนควรติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองในระยะถัดไป