ทองโลกพุ่ง! ดอลลาร์ร่วง เฟดจ่อลดดอกเบี้ย ธ.ค. สรุปปัจจัยกระทบทอง
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น หลังดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 5 วันติด ตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ปัจจัยการค้าและการอัดฉีดเงินของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ
ราคาทองคำโลก มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็ว ๆ นี้ .
ปัจจัยหนุนราคาทอง: ดอลลาร์อ่อนค่าและคาดการณ์ลดดอกเบี้ย
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสัญญาณเศรษฐกิจและการเงินโลก:
- ดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่า: ดัชนีเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 สู่ระดับ 99.46 หน่วย จาก 100.18 หน่วย การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาทอง
- คาดการณ์ลดดอกเบี้ยของ Fed: ตลาด CME FedWatch ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ว่า Fed อาจลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมนี้ เพิ่มขึ้นจาก 62.4% เป็น 67.9% แม้ว่าบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี จะยังทรงตัวที่ระดับ 4.12% ก็ตาม
ปัจจัยที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อราคาทองในอนาคต
แม้ว่าราคาทองคำจะได้รับปัจจัยบวกในปัจจุบัน แต่ก็มีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางของทองคำได้ในระยะต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นนโยบายของสหรัฐฯ:
- ข้อตกลงการค้า: ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินเดียและสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอาจมีการลดภาษีนำเข้าลง (เช่น การลดภาษีนำเข้าของสวิตเซอร์แลนด์จาก 39% เหลือประมาณ 15%)
- มาตรการอัดฉีดเงิน: ประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีแนวคิดในการอัดฉีดเงินมูลค่า 2,000 ดอลลาร์ต่อคน ให้แก่ชาวอเมริกัน แม้ว่าอาจจะมาในรูปแบบของการลดหย่อนภาษีตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวถึง หากมาตรการเหล่านี้เกิดขึ้นจริง อาจทำให้เกิด เงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ Fed ตรึงดอกเบี้ย ในภายหลัง
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 4.3 ตัน ทำให้ปริมาณทองคำสุทธิรวมอยู่ที่ 1,046.36 ตัน
สรุป
การปรับตัวขึ้นของ ราคาทองโลก ในช่วงนี้มาจากอิทธิพลของการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของ Fed อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามนโยบายการค้าและการเงินของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพราะมาตรการอัดฉีดเงินและการจัดการภาษีอาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ Fed เปลี่ยนใจและส่งผลกระทบต่อราคาทองในที่สุด