ข่าวทอง

ราคาทองคําช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบ 1,599.20 – 1,604.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคํายังทรงตัวในระดับสูง นักลงทุนเข้าหาตลาดทองคํา หลังยังไม่คลายวิตกเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ฟิทช์ เรทติ 1งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื0อถือระดับโลก เตือนว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาในจีนอาจมี “ผลกระทบที่คงอยู่ยาวนาน” ต่อบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐจากความไม่แน่นอนที่ว่าไวรัสดังกล่าวจะเข้าสู่ระดับสูงสุดเมื่อไรและการพึ่งพามากเกินไปต่อห่วงโซ่อุปทานจีนฟิทช์ ระบุว่า ผลที่เป็นไปได้ของการระบาดคือ “รายได้ที่ซบเซาล

ราคาทองปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้หลังมณฑลหูเป่ยของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนา รายงานการเพิ่มขึ้นสิ่งเป็นประวัติการณ์ของยอด ผู้เสียชีวิตในวันนี้ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพโลกเตือนว่า การระบาดอาจเลวร้ายกว่านี้มากก่อนที่จะควบคุมได้ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพประจำมณฑลหูเป่ยของจีน เปิดเผยว่า หูเป่ยพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 14,840 ราย และผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 242 รายในวันพุธ (12 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น มาจากการใช้วิธีกา

ราคาทองคําช่วงเช้าแกว่งตัวใกล้ 1,566 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นราคาปิดของวานนี้ ระยะสั้นเห็นแรงช้อนซื้อกลับเข้ามายังตลาดทองคํา แม้ว่านักลงทุนซึมซับข่าวไวรัสโคโรนาระบาดไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นยังคงบั่นทอนการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง สะท้อนได้จากตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เริ่มกลับมาปรับตัวลง ขณะที่ นายโจว เหลียง รองประธานคณะกรรมาธิการกํากับธนาคารและประกันภัยของจีน (CBIRC) ระบุในวันนี้ ว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรน

ราคาทองคําย้อนหลัง ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้จีนจะประกาศปิดเมืองหวงกังและอู่ฮั่นเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างไรก็ดี นักลงทุนทั่วโลกยังคงวิตกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน ที่ชาวจีนจํานวนหลายร้อยล้านคนจะเดินทางท่องเที่ยวทั้งภายในจีน และในต่างประเทศ ความวิตกดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงจนกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนลบ พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง เห

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 1.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีแทบจะทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีกพื้นฐาน ที่พุ่งขึ้นเกินคาดถึง 0.5% ในเดือนธ.ค., ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ที่พุ่งเกินคาดสู่ระดับ 17.0 ในเดือนม.ค. แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน รวมไปถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านและจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ต่างก็ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันจากการที่ดัชนีดาวโจนส์, S&am

ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ ทองร่วงลงทดสอบ 1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงกดดันหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐได้ถอดรายชื่อจีน ออกจาก “currency manipulator” หรือประเทศที่มีการบิดเบือนค่าเงิน ขณะที่นายสตีเว่น มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การดําเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่จีนได้ประกาศที่จะหลีกเลี่ยงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าด้วยการลดค่าเงิน ขณะที่เช้านี้ ค่าเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ6.8726 หยวน/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้ง

ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ ทะยานขึ้นทดสอบ 1,611 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศสหรัฐ โดยยิงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้น (surface-to-surface) จํานวนหลายสิบลูก เข้าใส่ฐานทัพอากาศสหรัฐซึ่งตั้งอยู่ในอิรัก เพื่อตอบโต้ที่กองทัพสหรัฐปลิดชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกําลัง Quds Force ของอิหร่าน ขณะที่ ผู้บัญชาการกองกําลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน ระบุว่า”การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านต่อเป้าหมายสหรัฐในอิรัก ถือเป็นขั้นแรก แล

แม้ว่าความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เบาบางลง แต่แนวโน้มที่ สหรัฐกําลังทําสงครามการค้ากับประเทศอื่นๆขยายวง กว้างชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้ออกคําสั่งขั้นสุดท้ายในการเรียกเก็บภาษีมากถึง 456% ต่อผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าบางรายการจากเกาหลีใต้ และ ไต้หวันที่ ขนส่งไปยังเวียดนามสําหรับการแปรรูปเล็กน้อยและจากนั้นส่งออกไปยังสหรัฐ นอกจากนี้นายแลร์รีย์ คัดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทําเนียบขาว ระบุว่า เขาและนายแมตต์ พอตทินเจอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐจะเดินทางเยือนอังกฤ

สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐกลุ่มหนึ่งเรียกร้องให้คณะบริหารภายใต้การนําของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประเมินกฎระเบียบการส่งออกของ สหรัฐสําหรับฮ่องกง โดยแสดงความกังวลว่า จีนอาจครอบครองเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว อันเป็นผลจากการให้การปฏิบัติเป็นพิเศษต่อฮ่องกงภายใต้กฎหมายสหรัฐ รวมทั้งกรณี Huawei Technologies Co กลายเป็นประเด็นสําคัญของความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน โดยมีการมองว่า Huawei เป็นเครื่องมือต่อรองในการเจรจาดังกล่าว ขณะที่นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาระดับสูงของทําเนียบขาวไม่ได้ให้ความสําคัญต่อ

นายปี เตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าทําเนียบขาวตําหนิการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง และหวังว่าเฟดจะทําในสิ่งที่ถูกต้องและลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่เหมาะสม ท่าทีดังกล่าว สอดคล้องกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ทวีตข้อความว่า เขาเตรียมเสนอชื้อสมาชิกคณะกรรมการเฟด ที่มีแนวคิดสนับสนุนการดําเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเด็นดังกล่าว กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงต่อเนื่องแตะ 1.948